พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นกองหน้าของชนชั้นกรรมกรของ
จีน ขณะเดียวกัน
เป็นกองหน้าของ ประชาชนและประชาชาติจีน เป็นศูนย์นำภารกิจสังคมนิยมที่ มีเอกลักษณ์ของ
จีน เป็นตัวแทน ความต้องการในการพัฒนากำลังการผลิตที่ทันสมัย
และตัวแทนทิศทางความก้าวหน้าของ
วัฒนธรรมจีนที่ทันสมัยและก็เป็นตัวแทนผล ประโยชย์ขั้นมูลฐานของ
ประชาชนจีนอันไพศาลที่สุด
เหมาเจ๋อตุงได้ยินเกี่ยวกับการ
ปฏิวัติคอมมิวนิสต์ใน
รัสเซียและเขาก็เป็นผู้ปฏิวัติลัทธิ มาร์กตั้งแต่นั้นก็ก่อให้เกิด
พรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้นใน
ประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2464 โดย
เหมาเจ๋อตุง พรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อสู้กับ
พรรคก๊กมินตั๋งหลายครั้งแต่ก็แพ้หลายครั้งแล้วเจอการ รุกรานของ
ญี่ปุ่นจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2
สหภาพโซเวียตได้มอบอาวุธจํานวน มากให้กับ
พรรคคอมมิวนิสต์จีน และได้ทําการรบกับ
พรรคก๊กมินตั๋ง จนได้รับชัยชนะปกครอง
ประเทศจีนและประกาศตั้ง
สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่
จัตุรัสเทียนอันเหมินในวันที่ 1 ตุลาคม 2492 เหมาเจ๋อตุงได้ประกาศว่า ณ วันนี้สาธารณรัฐประชาชนจีนศูนย์กลางอํานาจของประชาชนได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว และปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้นำประชาชนชนชาติต่าง ๆ ทั่วประเทศ รักษาไว้ซึ่งเอกราชและ ความมั่นคงของชาติ ได้บรรลุซึ่งการประเปลี่ยนของสังคมจีน จากลัทธิประชาธิปไตยใหม่สู่สังคมนิยม เป็นผลสำเร็จมีโครงการจนทำให้ภารกิจเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของจีนได้รับการพัฒนาอย่างใหญ่หลวงที่ีไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์
พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีข้อคิดเห็นให้พัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศอย่างแข็งขัน พยายามช่วง ชิงบรรยากาศระหว่างประเทศที่เป็นผลดีต่อการปฏิรูปและเปิดประเทศและการสร้างสรรค์ที่ทันสมัย ของจีน ในกิจการระหว่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดดำเนินนโยบายต่าง ประเทศที่สันติ และอิสระเป็นตัวของตัวเอง รักษาเอกราชและอธิปไตยของจีน คัดค้านลัทธิครอง ความเป็นเจ้าและ การเมืองที่วางอำนาจบาตรใหญ่ ป้องกันสันติภาพของโลก ส่งเสริมความก้าวหน้า ของมนุษยชาติ
พัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นองค์เอกภาพที่ก่อตั้งชึ้น ตามหลักนโยบายและธรรมนูญองค์การส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสค์จีนรวมถึงการประชุมสมัชชา ผู้แทนทั่วประเทศของ พรรค ฯ คณะกรรมการกลาง กรมการเมือง คณะกรรมการประจำกรมการเมือง
สำนักเลขาธิการ คณะกรรมการการทหารและคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์จีนการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดประชุม 5 ปีต่อครั้ง
ปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีสมาชิกร่วม 70 ล้านคน เลขาธิการใหญ่คนปัจจุบันคือ นาย
หูจิ่นเทา พรรคคอมมิวนิสต์จีน สาธารณรัฐประชาชนจีนปกครองในระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์มีพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีสมาชิกประมาณ 68 ล้านคน(สถิติปี 2547)เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีอำนาจในการกำหนดนโยบายด้านต่างๆของประ เทศอย่างเบ็ดเสร็จตามแนวทางลัทธิมาร์กซ์-เลนิน ความคิดของอดีตประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตง ทฤษฎีการ สร้างสรรค์สังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์แบบจีนของเติ้ง เสี่ยวผิง รวมถึงทฤษฎีสามตัวแทนที่ได้รับการบรรจุเข้า ในธรรมนูญของรัฐเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2545 โดยรัฐบาลและรัฐสภามีหน้าที่คอยปฏิบัติตามมติและนโยบาย ที่พรรคกำหนดโดยยึดหลักประชาธิปไตยรวมศูนย์ (Democratic Centralism) ตามธรรมนูญพรรค

กำหนดให้มีการประชุมสมัชชาพรรคแห่งชาติ (Party Congress) ทุก 5 ปี นับตั้งแต่ได้มีการจัดตั้ง พรรคขึ้นในปี 2464 จนถึงปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้จัดให้มีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ แล้วรวมทั้งสิ้น 16 ครั้ง โดยได้จัดประชุมสมัชชาพรรคสมัยที่ 16 ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2545 ซึ่งนายหู จิ่นเทา ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ คนปัจจุบัน (วาระ 5 ปี)
การเมืองภายในจีนยังคงมีเสถียรภาพภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 8-14พฤศจิกายน
2545ได้มีการประชุมสมัชชาพรรคสมัยที่16ซึ่งมีการถ่ายโอนอำนาจจากผู้นำรุ่นที่3ซึ่งมีนาย
เจียง เจ๋อหมิน เป็นแกนนำ ไปยังรุ่นที่ 4 ซึ่งมีนายหู จิ่นเทา เป็นแกนนำ
ที่ประชุมได้แต่งตั้งนายหู จิ่นเทา เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน พร้อมทั้งแต่งตั้งสมาชิกถาวรประจำกรมการเมือง (Members of Standing Committee of the Political Bureau of the Central Committee of CPC) อีก 8 คน ถือได้ว่าบุคคลทั้ง 9 คนนี้ เป็นผู้ที่มีความสำคัญทางการเมืองระดับสูงสุดของจีน
ระหว่างวันที่ 5-18 มีนาคม 2546 ได้มีการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติสมัยที่ 10 ขึ้น ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการสรุปผลการบริหารประเทศในช่วง 5 ปี พร้อมทั้งแต่งตั้งผู้นำรัฐบาล ชุดใหม่ โดยได้แต่งตั้งให้ นายหู จิ่นเทา เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นประธานาธิบดี ( สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน) และนายเวิน เจียเป่า เป็นนายกรัฐมนตรี (สืบแทนนายจู หรงจี) ในขณะที่ นายเจียง เจ๋อหมิน ยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อไปอีกสมัย
ต่อมา ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 4 ของสมัชชาพรรคสมัยที่ 16 ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2547 ได้อนุมัติให้นายหู จิ่นเทา ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหาร

(สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน) โดยจะมีผลเมื่อได้รับความเห็นชอบจากสภาประชาชนในเดือนมีนาคม 2548